จั่วหัวไว้ตั้งนาน ไม่ค่อยมีเวลาเขียนเลย ชวนอ่านหนังสือ....ของวันนี้ ขอเสนอหนังสือดีดี ของคนรู้จักสมอง อย่าง วนิษา เรซ หรือ หนูดี ดีกรีปริญญาโทด้านสมอง จาก ม. ฮาร์วาร์ด และแชมป์รายการอัจฉริยะข้ามคืน คนที่ 15 ตอนนี้หนูดีมีหนังสือชวนอ่านอยู่สามเล่มแล้ว คือ อัจฉริยาะสร้างได้. อัจฉริยะ..เรียนสนุก และอัจฉริยะสร้างสุข
เล่มแรกอัจฉริยะสร้างได้ ผมได้อ่านเมื่อสามปีก่อน และเป็นหนังสือที่ทำให้ผมได้รู้จักผู้หญิงมากความสามารถคนนี้ เธอได้จัดความสามารถของคนเราไว้แปดด้านด้วยกันคือ
1. อัจฉริยภาพด้านภาษาและการสื่อสาร
2. อัจฉริยภาพด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว
3. อัจฉริยภาพด้านมิติสัมพันธ์และการจินตภาพ
4. อัจฉริยภาพด้านตรรกะและคณิตศาสตร์
5. อัจฉริยภาพด้านการเข้าใจตนเอง
6. อัจฉริยภาพด้านการเข้าใจผู้อื่นและมนุษยสัมพันธ์
7. อัจฉริยภาพด้านธรรมชาติ
8. อัจฉริยภาพด้านดนตรี - ความสามารถในการรักดนตรี
2. อัจฉริยภาพด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว
3. อัจฉริยภาพด้านมิติสัมพันธ์และการจินตภาพ
4. อัจฉริยภาพด้านตรรกะและคณิตศาสตร์
5. อัจฉริยภาพด้านการเข้าใจตนเอง
6. อัจฉริยภาพด้านการเข้าใจผู้อื่นและมนุษยสัมพันธ์
7. อัจฉริยภาพด้านธรรมชาติ
8. อัจฉริยภาพด้านดนตรี - ความสามารถในการรักดนตรี
แต่ละด้านล้วนสำคัญมาก เธอได้เสนอเรื่องราวพร้อมตัวอย่างประกอบได้อย่างลงตัว อ่านสนุก อ่านสบาย ใช้ภาษาง่าย ๆ เข้าใจได้ไม่ยาก และสามารถเป็นแบบอย่างในการเขียนหนังสือได้เลย
ส่วนเล่มทีสอง อัจฉริยะ...เรียนสนุก ผมได้อ่านตอนที่กำลังจะมาเรียนที่อิตาลี เพราะเห็นว่าเค้าเขียนเกี่ยวกับวิธีเรียนอย่างคนมีสมอง เลยลองอ่านดู อ่านแล้วก็สนุกอีกเหมือนเดิม ไม่ผิดหวังจริง ๆ แถมได้เรียนรู้วิธีเรียนอย่างไร ให้เรียนดีด้วย ขอเสนอ 7 ธีวิเรียนดี ขอหนูดีครับ
ข้อที่ 1 : พกปากกาสี ติดตัวทฤษฎีสี กล่าวไว้ ว่า สีจะสามารถเพิ่มการจดจำเนื้อหาต่าง ๆ ได้มากกว่า สีน้ำเงินที่เขียนตามปกติจึงควรซื้อปากกาสีต่าง ๆ ติดตัวไว้ เวลาอ่านหนังสือก็ใช้ปากกาสีในการจดเนื้อหา ของ stabio ก็ดีนะ ทนหลายปีเลยแหล่ะ
ข้อที 2 : ใช้สมุด note ที่ไม่มีเส้นการใช้สมุดnote ที่มีลายเส้นนั้นเหมือนเราอยู่แต่ในกรอบเส้นนั้น แต่ถ้าใช้สมุดnote ที่ไม่มีเส้นนั้นจะทำให้เราไม่มีกรอบในการเขียน เราอยากเขียนอะไรก็อยากเขียนได้ทั้งนั้น ปัจจุบันหาซื้อยาก ต้องลองหาแถว ร้านขายสมุดวาดรูปดูน่ะ
ข้อที่ 3 : บันทึกงานออกมาในรูป Mind Map ถ้าเราอ่านหนังสือการ์ตูนตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว กับอ่านหนังสือ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราจะสามารถจดจำการ์ตูนได้มากกว่าเวลาจดเนื้อหาบางอย่างอาจจะจดในรูปแบบ Pic. จะสามารถจดจำได้มากกว่าการบันทึกงานในรูปแบบของ mind Map จะเป็นการแบ่งเรื่องหัวข้อใหญ่ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการอ่านอาจใช้ mind map เป็นรูปก็ได้
ข้อที่ 4 : Mp3 เราควรจะมี mp3 เพื่อใช้ในการบันทักเสียงเวลาที่คุณครูสอนแต่ไม่สามารถฟังและเก็บเกี่ยวเนื้อหาได้ครบทุกอย่างหากเราอัดไว้ก็จะสามารถย้อนกลับไปฟังได้หลาย ๆ ครั้ง ก่อนสอบ
ข้อที่ 5 : เอาใจครู เอาใจครูในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเอาอกเอาใจครู หมายถึง ทำตัวตามสไตร์ที่คุณครูชอบ เพื่อเพิ่มความชอบของคุณครูในตนเองเวลาเราชอบครูคนไหนก็อยากเรียนกับครูคนนั้น อยากส่งงาน ครู อยากเจอหน้าครู ก็จะทำให้เรียนเก่งยิ่งขึ้นเพราะ เราอยากเรียนวิชานั้น ๆ
ข้อที่ 6 : พูดคุยกับปากกาก่อนสอบ หรือก่อนเขียนงานเราควรพูดคุยกับปากกาบ้างคุณหนูดี กับ ด็อกเตอร์อะไรเนี่ยแหล่ะจำชื่อไม่ได้ ก็ใช้วิธีนี้จนเรียนจบปริญญา
ข้อที่ 7 : นั่งหน้าห้อง นั่งหน้าห้องจะสามารถทำให้เราได้ยินมากกว่าคนที่นั่งข้างหลังเรา เห็นชัดกว่าคนข้างหลังเราและสามารถถามครูได้มากกว่า ซึ่งมันเป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว
ข้อที 2 : ใช้สมุด note ที่ไม่มีเส้นการใช้สมุดnote ที่มีลายเส้นนั้นเหมือนเราอยู่แต่ในกรอบเส้นนั้น แต่ถ้าใช้สมุดnote ที่ไม่มีเส้นนั้นจะทำให้เราไม่มีกรอบในการเขียน เราอยากเขียนอะไรก็อยากเขียนได้ทั้งนั้น ปัจจุบันหาซื้อยาก ต้องลองหาแถว ร้านขายสมุดวาดรูปดูน่ะ
ข้อที่ 3 : บันทึกงานออกมาในรูป Mind Map ถ้าเราอ่านหนังสือการ์ตูนตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว กับอ่านหนังสือ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราจะสามารถจดจำการ์ตูนได้มากกว่าเวลาจดเนื้อหาบางอย่างอาจจะจดในรูปแบบ Pic. จะสามารถจดจำได้มากกว่าการบันทึกงานในรูปแบบของ mind Map จะเป็นการแบ่งเรื่องหัวข้อใหญ่ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการอ่านอาจใช้ mind map เป็นรูปก็ได้
ข้อที่ 4 : Mp3 เราควรจะมี mp3 เพื่อใช้ในการบันทักเสียงเวลาที่คุณครูสอนแต่ไม่สามารถฟังและเก็บเกี่ยวเนื้อหาได้ครบทุกอย่างหากเราอัดไว้ก็จะสามารถย้อนกลับไปฟังได้หลาย ๆ ครั้ง ก่อนสอบ
ข้อที่ 5 : เอาใจครู เอาใจครูในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเอาอกเอาใจครู หมายถึง ทำตัวตามสไตร์ที่คุณครูชอบ เพื่อเพิ่มความชอบของคุณครูในตนเองเวลาเราชอบครูคนไหนก็อยากเรียนกับครูคนนั้น อยากส่งงาน ครู อยากเจอหน้าครู ก็จะทำให้เรียนเก่งยิ่งขึ้นเพราะ เราอยากเรียนวิชานั้น ๆ
ข้อที่ 6 : พูดคุยกับปากกาก่อนสอบ หรือก่อนเขียนงานเราควรพูดคุยกับปากกาบ้างคุณหนูดี กับ ด็อกเตอร์อะไรเนี่ยแหล่ะจำชื่อไม่ได้ ก็ใช้วิธีนี้จนเรียนจบปริญญา
ข้อที่ 7 : นั่งหน้าห้อง นั่งหน้าห้องจะสามารถทำให้เราได้ยินมากกว่าคนที่นั่งข้างหลังเรา เห็นชัดกว่าคนข้างหลังเราและสามารถถามครูได้มากกว่า ซึ่งมันเป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว
ส่วนเล่มที่สามยังไม่ได้อ่าน ยังไม่ได้ซื้อเลย สงสัยชีวิตผมยังไม่ขาดความสุข เลยไม่รีบร้อนอ่าน แต่กะว่าจะต้องอ่านให้ได้ เพราะไม่อยากพลาดคำแนะนำดีดี