นี่เป็นรถสมัยไหนไม่รู้
รู้แต่ว่าเท่ห์มากกก
ที่สำคัญครับ มากันเป็นแก๊งค์
ถ้าบ้านเราคงเรียกเด็กแ็ว้นละมั้ง
อิอิ
ผมชอบมากครับเวลามันไปกันเป็นขบวน
ดึงดูดสายตานักท่องเี่ที่ยวดีนักแล
บางคนก็ปรารถนาจะเป็นสก๊อย
สาวน้อยนังรถพ่วง ดูแล้วก็มีความสุขไปอีกแบบ
วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2552
พบปะศิลปินตัวจริง
เดินไปเดินมา พลัดหลงเข้าไปในร้านวาดภาพแห่งหนึ่ง
เลยมีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าของภาพวาด
คุยไปคุยมาถูกคอครับ
เธอชื่อ มิสซิส สมิท เป็นชาวแคนนาเดียน
แต่มาอยู่อิตาลีได้หลายปีแล้ว
พอได้ที คุยไปคุยมา เธอก็เริ่มอวดผลงานของเธอ
ทำเอาผมอึ้งไปกับความสามารถของเธอเลยครับ
เธอเคยเป็นผู้ร่วมงานกับทีมงานหนังฮอล์ลิวู้ด
เคยร่วมสร้างฉาก และหุ่นจำลองในหนังหนังหลายเรื่่อง
เช่น stars war, meet Joe Black, the king and I etc,...
เลยอดใจไม่ไหว ต้องขอกดชัตเตอร์เคียงไหล่สักสองสามรูป
เอาใจนักช๊อป
วันนี้ขอเสนอร้านค้าต่าง ๆ ที่อัสซีซี
เผื่อว่าใครหลายคนอยากรู้ว่า มีอะไรดีที่อัสซีซีบ้าง
ยั่วน้ำลายกันที่ร้านแรก คือ ร้านไอศกรีม
อร่อยมากครับ แต่แพงไปนิด
กินซาเวนเซ่น บ้านเราถูกกว่าเยอะ
ต่อไปเป็นร้านขายของที่ระลึก
มีทั้งรูปพระ รูปนักบุญ
และงานศิลปะต่าง ๆ มากมาย
แบบว่าถูกใจยอร์ชมากกกกก
เดินจนขาลากยังตัดสินใจซื้ออะไรไม่ได้เลย
(ไม่ใช่ไม่ถูกใจ แต่มัมแปงง เกินไป
และอีกอย่างซื้อแล้วก็ต้องเป็นภาระแบกกลับอีก
เลยได้แค่สองสามอย่างเอง)
สำหรับนักช๊อปทั้งหลาย
ถ้าอยากเพลิดเพลิน ก็ต้องแบกมันนี่มาเยอะ ๆ
ซื้อเสร็จแล้วก็แบกของกลับไปบ้านอีก
ช๊อปกันให้หลังอานไปเลย (ไม่ใช่สุนัขพันธุ์ฺไทยนะ)
วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552
ถนคนเิดิน สำหรับคนมีฝัน
ภาพแบบนี้ มีให้เห็นมากมาย หลายมุมในอิตาลี
ตึกสูงแข็งแกร่งมั่นคง โอบล้อมผู้คนที่สัญจรไปมา
ต่างคนต่างมีจุดประสงค์ของตัวเอง
แต่ก็ไม่พ้นต้องเดินร่วมทางกัน
บนถนนชีวิตก็เช่นกัน
เราอยู่รวมกัน เส้นทางเดียวกัน
แต่มีความฝันที่ต่างกัน
จงทำฝันของเราให้สำเร็จ
และเป็นกำลังใจให้กับฝันของกันและกันด้วย
วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552
หน้ากากชีวิต
เมื่อมาถึงอิตาลี นอกจากกาแฟและไอศกรีมแล้ว
สิ่งหนึ่งที่แสดงความเป็นอิตาเลียนได้ดีนัก คือ หน้ากากอันสวยงาม
เมื่อพูดถึงหน้ากากที่อิตาลี ก็ต้องนึกถึงเมืองเวนิเซีย
เมืองที่งดงาม ดั่งเมืองในเทพนิยาย
หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องราวของไชล็อก ยิวขี้งกในภาพยนตร์เรื่อง
เวนิช วานิช ที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ในเมืองเวนิชเซีย
นอกจากนั้นเมืองนี้ยังมีชื่อเสียงด้านหน้ากากแฟนซีที่สวยงาม
ที่เมืองไหนไหนก็เทียบไม่ติด
ผมตั้งใจว่า สักวันผมจะต้องไปเหยียบแผ่นดินเวนิเซียให้จงได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากได้หน้ากากสักอันนั้นไม่ยาก
เพราะไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็ตามในอิตาลี
ร้านรวงของที่ระลึกต่าง ๆ จะมีหน้ากากไว้จำหน่ายให้นักท่องเที่ยวเสมอ
อันความเป็นจริงของหน้ากาก...
หน้ากากบดบังความจริง...
ความจริงที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้หน้ากากอาจดีหรือร้ายก็เป็นได้
หน้ากากสวย ภายในอาจไม่งามอย่างที่คิด
หน้ากากดุร้าย ภายในอาจอ่อนโยน
หน้ากากยิ้มแย้ม ภายในอาจเศร้าหม่นหมอง
หน้ากากร้องไห้ ภายในอาจขำแทบสำลัก
หน้ากากหลอกลวง
คนที่สวมหน้ากาก...เราจะเชื่อใจเขาไม่ได้
คนที่สวมหน้ากาก...เราจะดูถูกเขาไม่ได้
คนที่สวมหน้ากาก...เราจะตัดสินเขาไม่ได้
แต่เราสามารถรักเขาได้
ช่วยเขาถอดหน้ากาก แล้วเผชิญกับความจริง
พลังที่ยิ่งใหญ่ในสิ่งเล็กน้อย
การกระทำทุกอย่างของคนเรานั้น ล้วนมีพลังที่ซ่อนเร้นอยู่
พลังนั้นมีอำนาจเกินกว่าจะคำนวนออกมาเป็นตัวเลขได้
แค่คุณยื่นมือให้คนที่กำลังล้ม...
เขาก็สามารถลุกขึ้นยืนได้
แค่คุณยิ้มให้ผู้ที่กำลังเศร้า...
เขาก็สามารถมีความสุขได้ทั้งที่ยังร้องไห้
แค่คุณกอดผู้ที่กำลังขาดความอบอุ่น...
ก็ทำให้เขาจดจำกอดนั้นได้ตลอดชีวิต
แค่คุณก้าวไปกับผู้ที่กำลังโดดเดี่ยว...
เขาก็สามารถเดินไปได้ไกลกว่าที่คิด
แค่คุณรักคนที่ไม่น่ารักอย่างไม่มีเหตุผล...
ก็ทำให้โลกใบเล็กของเขาสวยงามขึ้นมาได้
แค่คุณพูดแต่เรื่องดีดีกับทุกคน...
ก็ทำให้คุณกลายเป็นคนที่น่าคบที่สุดสำหรับคนอื่น ๆ
แค่คุณคิดแต่เืรื่องสร้างสรรค์...
ก็ทำให้ชีวิตของคุณมีความสุขที่สุดในโลก
แค่คุณเชื่อในพระเจ้า...
คุณก็สามารถย้ายภูเขาของชีวิตได้สบาย ๆ
มาทำอะไรดีดี...กับชีวิต...
ทั้งกับคนอื่นและตัวเองกันเถอะ
.......................โทมมาโซ......อิตาลี.............. *u*
วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
