Edit title Here

ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่
นักคิดร้อยคำ นักธรรมร้อยใจ
วันนี้มีอะไรใหม่ ๆ เสมอในชีวิต
อย่างน้อยก็มีความรักของพระเจ้า
เป็นความรัก...ที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง...
และอยู่กับเราเสมอ...แม้เราจะไม่ค่อยใส่ใจก็ตาม
Enter
BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Local Flowers...ดอกไม้บ้าน ๆ


บอกแล้วครับ...ว่ามีเยอะ...พอดูคลิปสอนวาดภาพเข้ามาก ๆ
มือไม้ก็เริ่มขยับ อยากจะวาดขึ้นมาทันที
แต่ละภาพที่วาดก็อยากให้เสร็จเร็ว ๆ
ไม่อยากให้กินเวลาอื่น ๆ  อยากให้เป็นงานอดิเรก แก้เครียดมากกว่า
เลยออกมาสวยบ้าง ไม่สวยบ้าง...แต่ก็พอลูไล่ ....(พอดูได้)


วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Tulips...watercolor เอาดอกไม้มาฝาก


สวัสดีครับ ทุกท่าน
วันนี้ผมเอาดอกไม้มาฝาก หลังจากที่วาดแต่อาคารบ้านเรือน และวิวทิวทัศน์กันมามากแล้ว
เลยอยากวาดดอกไม้บ้าง สลับกันไปจะได้ไม่เซ็ง

ผมขอประเดิมด้วยดอกทิวลิปก็แล้วกัน (แสดงว่ายังมีอีกเยอะ หุหุ)
มีสีต่างๆ สลับกันไป
ถ้าจับมาใส่กรอบแล้วเอาไปเรียงกันที่ฝาบ้าน...คงจะงามพอดูนะ ฮ่าๆๆ พูดไปได้
เอาเป็นว่าไม่มีคำบรรยาย มีแต่ภาพไว้ให้ดูเล่น ๆ
สวัสดีครับ


วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Santa Cecilia a Roma...สามนิ้ว...คือ หนึ่งนิ้ว

วันนี้ได้โอกาสเอาภาพเด็ด ๆ (ผมคิดเองว่าเด็ด) มาฝากทุกท่านครับ
เผอิญว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ได้มีโอกาสไปเดินเที่ยวกับคณะผู้มาอบรมพระคัมภีร์ที่ Nemi
พวกเรามีความตั้งใจว่าอยากจะไปชมวัดนักบุญเชชีลีอา
ผมก็เริ่มกางแผนที่และหนังสือท่องเที่ยวของผม และเริ่มค้นหาว่ามันอยู่ตรงไหนของกรุงโรม
แต่ก็รู้อยู่ว่าอยู่แถว ๆ Trastevere ใกล้ ๆ หอพักนี่เอง แต่ไม่รู้ว่าอยู่ซอยไหน
พอได้ฤกษ์และได้เรื่องแล้ว ก็แบกกล้องกันเลย


วันนี้ในใจผม มีแรงบันดาลใจอยู่สองอย่างที่อยากไปวัดนี้ คือ
ประการแรก เพิ่งได้ศึกษาเรื่องการวัดแสงในการถ่ายภาพเพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ต เลยอยากลองดูบ้าง
ประการที่สอง เพราะว่าเคยไปเที่ยว กาตากอม Callisto
ที่นั่นเป็นที่ฝังศพของท่านนักบุญเชชีลีอา และมีรูปแกะสลักหินอ่อนของท่าน
นอนสิ้นใจอยู่บนหลุมศพ โดยที่ยังทำมือเป็นสัญลักษณ์ค้างอยู่
มือข้างหนึ่ง ทำเป็นสามนิ้ว..ส่วนอีกข้างทำเป็นหนึ่งนิ้ว
มีความหมายว่า ท่านนักบุญจะเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียวที่มีสามพระบุคคลตลอดไปไม่เสื่อมคลาย
ไม่มีสิ่งใดจะพรากความเชื่อนี้ไปได้ แม้แต่ความตายก็ตาม
แต่ว่ารูปแกะสลักในกาตากอมนั้นไม่ใช่ของดั้งเดิม เป็นของจำลองขึ้นมา
ของดั้งเดิมนั้น อยู่ที่วัดแห่งนี้ครับ.....วัดนักบุญเชชีลีอาแห่งทราสเตเวเร่


พอมาถึงวัดก็สมหวังดั่งใจทั้งสองประการเลยครับ






ด้านหน้าของวัดทางเข้าก็ดูธรรมดามาก ข้างในมีสวนเล็ก ๆ และน้ำพุกลางลาน
ด้านหน้าของประตูมีรูปเทวดาน้อยสององค์ ถือป้ายหินที่มีรูปโน้ตดนตรี
เพราะท่านนักบุญเป็นองค์อุปถัมภ์ของนักดนตรี
ก่อนท่านได้ปฎิเสธพระเท็จเทียม ท่านไม่ได้กลัวสิ่งใดเลย
มีแต่พระเจ้าผู้เีดียวเท่านั้น ที่ท่านยำเกรง

















ภายในวัดก็ดูไม่กว้างนัก เมื่อเทียบกับหลาย ๆ วัดในกรุงโรม






นี่คือภาพเฟรสโก้บนเพดาน เป็นภาพที่ท่านนักบุญได้รับสวมมุงกฎดอกไม้แห่งมรณสักขี
ในภาพท่านถือใบปาล์มเพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นพรหมจารี
และมีเครื่องเล่นออร์แกน เพราะเป็นองค์อุปถัมภ์ของนักดนตรี
ในคืนวันแต่งงาน ท่านได้ยินเสียงเพลงบรรเลงอย่างไพเราะ
จึงทำให้ท่านหวนคิดถึงคำปฏิญาณที่จะถือพรหมจรรย์เพื่อพระเจ้า
ท่านจึงได้รื้อฟื้นคำปฏิญาณ และได้รักษาพรหมจรรย์ไว้
พร้อมทั้งได้ชักนำให้สามีเขาเชื่อในพระเจ้าด้วย








ภาพนี้ จขบ ชอบเป็นพิเศษครับ...........เพราะในภาพมีความต่างของแสงมาก
แต่ก็สามารถใช้เทคนิคที่ได้อ่านมา เก็บแสงได้ทั้งภายในและภายนอก..โดยไม่มืดเกินไป หรือสว่างเกินไป
ขอบคุณผู้รู้ที่แนะนำนะครับ....ผมท่องได้ขึ้นใจเลยว่า "ดำเดอร์ ขาวเ่วอร์".......แค่นี้ก็ได้ภาพงามแล้ว









นี่คือรูปแกะสลักหินอ่อนที่ว่า.........วางไว้ใต้พระท่านใหญ่ของวัดเลย
ดูมีมนต์ขลังมาก




สังเกตนิ้วมือนะครับ
มือข้างซ้ายทำชูสามนิ้ว
มือข้างขาวชูนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียว


ประวัติเพิ่มเติมของท่านนักบุญครับ


นักบุญเซซีลีอา พรหมจารียและมรณสักขี (ค.ศ. 207-230)ฉลอง  22 พฤศจิกายน
            เซซีลีอา มาจากตระกูลชั้นสูงในกรุงโรม เป็นผู้ที่ศรัทธาต่อพระเยซูเจ้า 

บิดามารดาบังคับให้เธอแต่งงานกับบุรุษผู้สูงศักดิ์มีนามว่า " วาเลเรียน " 
ในเย็นวันแต่งงาน ขณะที่เธอได้ยินดนตรีบรรเลงอย่างรื่นรมย์ 
เซซีรีอาได้รื้นฟื้นคำปฎิญาณที่ว่า ตนจะอุทิศถือพรหมจรรย์แด่พระผู้เป็นเจ้า 
เธอได้สารภาพความในใจนี้กับวาเลเรียนผู้สามี และชักนำเขาจนสมัครเป็นคริสตชนได้ 
และเนื่องจากเขาได้ช่วยเหลือเซซีรีอาในงานเมตตาเพื่อคนจน จึงถูกศัตรูฆ่า

     เซซีลีอา ปฏิเสธที่กราบไว้พระเท็จเทียม เธอถูกนำไปรนด้วยไอนํ้าเดือด 

แต่พระเป็นเจ้าได้ช่วยเหลือชีวิตเธอไว้ จึงถูกทางการให้ทหารนำตัวไปตัดศีรษะ 
เพชฌฆาตลงดาบถึงสามครั้ง แต่ศีรษะของเธอไม่ได้หลุดจากบ่า
 เธอได้รับบาดแผลฉกรรจ์แต่ยังมีชีวิตอยู่ต่อมาถึง 3 วัน 
เธอได้ยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเธอแด่พระสังฆราช เพื่อทำประโยขน์แก่พระศาสนาจักร 
และได้รับศีลมหาสนิทก่อนสิ้นใจ

     ศพของเซซีลีอาถูกฝังไว้ในอุโมงค์ใต้ดินที่เรียกว่า " กาตากอมป์ " 

และได้รับเชิญไปฝังไว้ในพระวิหารนักบุญเซซีรีอา กรุงโรม 
เมื่อเปิดหีบศพออกปรากฎว่าร่างกายของเธอมิได้เน่าเปื่อยเลย


ขอจบทริปนี้ไว้ก่อนนะครับ............ทริปหน้าจะตามมาอีก เมื่อพร้อม...(ฮ่าๆๆ ไม่รู้วันไหนนะครับ)

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

L'inondazione in Thailandia...น้ำท่วมบ้านยังไม่เท่าคนโกงเมือง

ช่วงนี้ที่หลายจังหวัดที่เมืองไทย คงกำลังเผชิญกับน้ำท่วมอยู่
ส่วนผมอยู่ที่อิตาลี ก็คอยตามข่าวน้ำท่วมอยู่ทุกวัน
เหมือนรู้สึกว่า เราได้รับปัญหานี้ไปด้วย โดยที่ไม่รู้ตัว


ข่าวที่ได้รับมาส่วนใหญ่จะเป็นการเคลื่อนตัวของมวลน้ำ...
และลุ้นอยู่ว่า น้ำจะเคลื่อนไปทางใดบ้าง จะไหลบ่าท่วมบ้านของคนที่เรารู้จักบ้างไหม


อีกข่าวหนึ่งที่น่าประทับใจคือ การแสดงน้ำใจจากคนไทยด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐหรือเอกชน
ฝ่ายทหาร ที่ได้ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างขยันขันแข็ง
รวมทั้งฝ่ายคาทอลิกของเราด้วย
และที่ซาบซึ้งใจมาก คือ ข่าวความเป็นห่วงเป็นใยประชาราษฎร์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


แต่ข่าวที่น่าสลดยิ่งกว่านั้นคือ.......ข่าวการคดโกงของบริจาค
คนเราช่างมีใจคับแคบนัก ผมถือว่ามันคือ การทำความชั่วอย่างหนึ่ง
เป็นความชั่วที่ทำโดยอาศัยความดีของคนอื่น
คนอื่นทำความดีบริจาคข้าวของแก่ผู้ประสบภัย
แต่ตัวเองฉวยโอกาสติดชื่อของกลุ่มของตัวเองบ้าง
กักตุนไว้ใช้เองบ้าง หรืออะไรอื่น ๆ สารพัดวิธีคดโกง


ความชั่วเช่นนี้ อาจเพิ่มขึ้นเป็น ๓ เท่าตัว


ประการแรก    คือ   ชั่วในการกระทำ........
การสวมรอย....คือ การนำของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง หรือการขโมยนี่เอง


ประการที่สอง คือ การนำของคนที่มาบริจาคไปใช้อย่างอื่น ผิดจุดประสงค์ของผู้บริจาค
คนอื่นต้องการทำความดี แต่ตนเองเป็นคนขัดจุดประสงค์ 
จนไม่สามารถทำให้จุดประสงค์ของผู้บริจาคบรรลุเป้าหมายได้


ประการที่สาม คือ ผู้ประสบภัยได้รับความเดือนร้อน 
แทนที่จะได้รับความช่วยเหลือเท่าที่ควร แต่กลับถูกพวกใจมาร กักตุน หรือโกงในส่วนทีควรได้รับ..
สิ่งนี้อาจเปรียบได้กับการปล้นบ้านคนจนก็ไม่เท่า
คนที่ไม่มีจะกินอยู่แล้ว กลับต้องโดนขโมยสิ่งประทังช่วยไปซะงั้น.......


มีบางคนนำเอาเหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่นมาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์น้ำท่วมที่เมืองไทย
อ่านแล้วสลดใจเป็นที่สุด....ข้อเขียนนั้นทำให้เห็นภาพชัดเจนเหลือเกิน
แม้ว่าจะเป็นการเปรียบเที่ยบเชิงประชดประชันก็ตาม
แต่ก็มีมูลความจริงอยู่บ้างค่อนข้างมากเลยทีเดียว
ข้อความดังกล่าวมีดังนี้ 


สึนามิ JAPAN VS น้ำท่วม THAILAND

J ลดราคาของและแจกฟรี T ของขึ้นราคาตามระดับน้ำ (ชนะเลิศ)
J ซื้อน้ำได้คนละขวดเท่านั้น T กักตุนอาหารใครมีตังค์ซื้อได้เท่าไหร่ซื้อไป (ก็กูรวยอ่ะ)
J ข้าวสารอาหารแห้งหมดสั่งเพิ่มอย่างเร่งด่วน T รอกูขึ้นราคาแป๊บนะเงินกำลังดี (เบาๆ)
J เข้าแถวต่อคิวรับของบริจาค T แย่งกันแล้วแย่งกันอีก (ก็กลัวไม่ได้)
J แจกน้ำคนละสองขวดแต่เอาขวดเดียวกลัวไม่พอคนอื่น T ได้มากเท่าไหร่ยิงดี (ของฟรี)
J ร่วมกันสร้างร่วมกันแก้ไข T แตกแยกไปของใครของมัน (กูเหลือง กูแดง กูไม่มีสี)
J ช่วยกันป้องกันก่อสร้างส่วนที่พังไป T ช่วยกันทำลาย(กูท่วมเมิงก็ต้องท่วม)
J ส่งแจ้งเตือนแผ่นดินไหวทางโทรศัพท์ T น้ำมากูจุดพลุเตือน (บ้านกูไม่ท่วมแต่กูสะดุ้ง)
J ไม่ได้รับผลกระทบแต่ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ T ก็บ้านกูไม่ท่วมนิจะไปเดือนร้อนอะไร(เช๊อะ)
J โทรทัศน์รายงานสถานการณ์ 24ชม T ละคร2ชั่วโมง ข่าว10นาที (พลาดไม่ได้)
J ไม่มีของหายไม่มีทรัพย์สินโดนขโมย T เป็นช่วงนาทีทองของขโมยจริงๆ (หวานกูแล้ว)
J แก้ไขสถานการณ์ได้ดีจากทุกฝ่าย T ตอนนี้มีฝ่ายไหนบ้างกูยังไม่รู้เลย (กูช่วยตัวเองตลอด)
J พร้อมใจกันตัดไฟเพื่อช่วยชาติ T อย่าตัดไฟนะเด๋วกูออนเฟสไม่ได้ (อัพรูปไม่ได้นะเว้ย)
J ถนนพังรีบซ่อมใช้การได้ภายในเจ็ดวัน T พังหรอ?พังที่ไหน?เอาไว้ก่อนนะ (เพลีย)
J บริจาคร้อยล้านไม่ต้องออกข่าว T บริจาคหมื่นเดียวก็ออกข่าวเจ็ดวันเจ็ดคืน (ได้หน้า)
J เสียสละตัวเองเพื่อส่วนรวมไปซ่อมโรงไฟฟ้าจนตาย T กูกลัวจระเข้ไม่กล้าลงน้ำ (จะบ้าตาย)
J หน่วยกู้ภัยเข้าช่วยเหลือทั้งวันทั้งคืน T บ้านอยู่ลึกน้ำลึกเข้าไปไม่ได้รอพรุ่งนี้เช้านะ (เยี่ยม)
J แก้ไขปัจจุบันให้ดีที่สุด T เตรียมพร้อมรับมืออนาคตเท่านั้น (แนวคิดเก๋ๆ)
J นักกีฬาออกมาช่วยเต็มที่ยกเลิกการแข่งขัน T รอไปซีเกมส์จ้า (เจ้าเหรียญทองแน่ๆ)
J สั่งอพยพคนได้อย่างรวดเร็ว T ประกาศออกโทรโข่งแล้วแต่ไม่ได้ยิน (โทรโข่งถ่านอ่อน)





นี่แหละครับ.........คนที่ประสบภัยจริง ๆ คงรู้สึกท้อแท้ใจเมื่อเจอเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้
แต่ก็ยังดี ที่ไม่ใช่ทุคนที่แล้งน้ำใจ ยังมีคนใจดีอยู่มาก
ทำให้พี่น้องไทยที่ประสบภัยได้รับการบรรเทาทั้งด้านร่างการและจิตใจ


ที่สำคัญนอกจากปัจจัยภายนอกแล้ว คือ คำภาวนาให้แก่กันและกัน
พวกเราคนไทยในโรมก็ได้ร่วมใจกับภาวนาเพื่อเหตุการณ์นี้แล้ว
และเรายังได้รับคำภาวนาจากพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ ๑๖ ด้วย


แม้ว่าเหตุการณ์น้ำท่วมบ้านจะถูกทับถมให้เจ็บช้ำกับคนโกงเมือง
แต่ก็ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ จากเหตุการณ์นี้
ทำให้เรารู้ว่าใครคือญาติสนิทมิตรแท้.......และใครคือ ผู้ลวงโลก
เพราะสันดานแท้ของคน...มักจะแสดงออกได้ดี ในยามยากของชีวิต....


ขอเป็นกำลังใจให้คนไทยนะครับ........ก่อนจบบทความนี้
ผมขอมอบภาพถ่าย จากมือสมัครเล่นคนนี้...
เป็นการส่งกำลังใจ ให้ดูกันเล่น ๆ แก้เครียดนะครับ
เป็นภาพวิวใกล้ ๆ วาติกัน....ถ่ายเวลา ตีหนึ่งกว่า.........(ว่าแต่ไปเดินอะไรดึกดื่นนี่..ฮ่าๆ)














เนื้อหาและรูปภาพในบล็อกนี้ แม้จะไม่ใช่มืออาชีพ..แต่ถ้าจะนำไปใช้ในการอื่น ขอให้แจ้งเจ้าของบล็อกนิดนึงนะครับ
สงวนลิกขสิทธิ์ตามพ.ร.บ. ครับ...