Edit title Here

ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่
นักคิดร้อยคำ นักธรรมร้อยใจ
วันนี้มีอะไรใหม่ ๆ เสมอในชีวิต
อย่างน้อยก็มีความรักของพระเจ้า
เป็นความรัก...ที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง...
และอยู่กับเราเสมอ...แม้เราจะไม่ค่อยใส่ใจก็ตาม
Enter
BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

รักเก่า...ที่บ้านหลังเก่า...

ตราบใดที่ไม่มีใครสามารถ...
ดึงพระอาทิตย์ให้ตกทางทิศตะวันออกได้...
ตราบนั้นเวลาก็ยังคงหมุนไปข้างหน้าเสมอ...
และไม่มีใครย้อนเข็มนาฬิกาไปหาเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีตได้...

เคยไหมครับ...??
ที่เกิดอาการเสียดายเวลา...เสียดายสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมา...
เสียดายที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ควรทำ..

ผมโตมาในบ้านหลังเก่า ๆ หลังหนึ่ง...
เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว...แต่ยกสูงจากพื้นประมาณเมตรนึง
พอที่จะให้เด็ก ๆ คลานลอดใต้ถุนไปเก็บเศษเหรียญได้
รูปทรงของบ้านเป็นรูปสี่เหลี่ยม..มุงสังกะสี
แผงประตูไม้หน้าบ้านสามารถเปิดออกได้ทุกบาน...
เพราะเมื่อก่อนเคยเป็นร้านขายของชำของปู่กับย่า...
บ้านหลังนี้ไม่มีบานหน้าต่าง...มีแต่แผ่นไม้ไผ่สานเก่า ๆ
หน้าบ้านมีโอ่งแดงใหญ่ ๆ เอาไว้เก็บน้ำฝน...


บ้านรูปสี่เหลี่ยมผืนบ้าน...
มีด้านหน้าเป็นระเบียงติดกับถนน มีรั้วซอมซ่อกันไว้อยู่
ข้างระเบียงมีตุ่มน้ำดื่มสองตุ่ม..
ที่ทำขาตั้งไว้ต่างหากจากตัวบ้าน
ถ้าจะดื่มก็ต้องใช้กระบวย..และยื่นตัวออกไปตักมาดื่ม...
ส่วนกลางของบ้านเป็นห้องนอน เราใช้ตู้เสื้อผ้าแบ่งเป็นล็อค กั้นไว้ทำเป็นห้องนอน
ส่วนถัดไปด้านหลังเป็นครัว...ห้องครัวที่มีสารพัดอย่าง...
มันเป็นห้องเก็บของกราย ๆ...
ส่วนหลังบ้านที่เป็นชานไม้ต่อออกไป..เป็นที่อาบน้ำ ล้างจาน ซักผ้า...
พื้นเป็นไม้ลำกลม ๆ วางเรียงกัน...เหมือนพื้นกระท่อมปลายนา ยังงัยยังงั้น...

นอกจากมีบ้านแล้ว ยังมีโรงสีเก่า ๆ เอาไว้สีข้าวเปลือกกิน รวมทั้งข้าวของชาวบ้านด้วย
ผลพลอยได้จากการมีโรงสี คือ การเลี้ยงหมู
เราเอารำที่ได้จากการสีข้าว ไว้เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่...แล้วเลี้ยงควายด้วย..
ควายที่บ้านผมกินรำด้วยนะจะบอกให้

นอกจากนั้นก็มียุ้งฉางเก็บข้าวเปลือกอยู่สองหลัง
หลังหนึ่งสำหรับข้าวจ้าว อีกหลังสำหรับข้าวเหนียว...
ใต้ถุนฉางข้าวเป็นคอกหมู...สาระพัดประโยชน์จริง..ๆ

ที่ผมเล่ามาทั้งหมด...เป็นเพียงภาพในอดีต...
ที่ตอนนี้หาดูไม่ได้แล้ว...
และก็ไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย..
คงเหลือแต่ความทรงจำเท่านั้น...

ที่บ้านหลังนี้มีเรื่องรวมมากมาย...
มันมีเรื่องเล่า...เล่าเท่าไหร่ก็ไม่จบ...
ผมและน้อง ๆ อีกสามคน
เราเกิดที่นี่...เกิดที่ห้องครัวซอมซ่อของเรา...
แม่ไม่เคยไปฝากท้อง..ไม่เคยให้สูตินารีแพทย์ตรวจ...
มีแต่หมอตำแยประจำหมู่บ้าน..ที่ืชื่อ ยายหนูเีพียง...
บ้านยายหนูเพียงอยู่ใกล้ ๆ บ้านผมเอง...
มีอะไรก็เรียกใช้กันได้...

อันที่จริงผมก็จำบรรยากาศที่แม่เจ็บท้องไม่ได้หรอก
จนมาถึงตอนแม่คลอดน้องชายคนเล็กของผม...
ตอนนั้นผมจำได้..ผมตื่นเต้นมาก ๆ
ผมไม่รู้ว่าแม่ผมรู้สึกอย่างไร...
แต่ตอนแม่คลอด แม่เีรียกหาพ่อผมตลอด...
เพราะว่า ตอนนั้นพ่อผมไม่อยู่บ้าน..
พ่อไปใช้แรงงานที่ต่างประเทศ...
แม่คงคิดถึงพ่อมาก...
และพ่อก็คงเป็นห่วงแม่ผมเหมือนกัน...

นี่เป็นเพียงเรื่องราวเล็ก ๆ เท่านั้นเอง...

ถึงตอนนี้ ...
ผมเลยตัดสินใจนึกภาพบ้านหลังเก่า..
ซึ่งตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยบ้านหลังใหม่...
จิตนาการ...แล้วก็วาดมันออกมา้ด้วยสีน้ำ..
เชื่อไหมครับ..หลังจากที่ผมวาดเสร็จ...
น้ำตาผมแทบไหล...ผมคิดถึงบ้านมากเลย...
ผมดูแล้วดูอีก...จับแล้วจับอีก...
มันตื้นตันใจ..เหมือนกันว่า...ผมได้เรียกความทรงจำนั้นกลับคืนมาอีก....
และผมอยากให้พ่อแม่ ปู่ และน้อง ๆ ของผมได้ดู
ผมคิดว่า พวกเขาคงจะดีใจน่าดู



ผมจึงอยากจะบอกเพื่อน ๆ ว่า...
ใครก็ตามที่มีบ้านหลังใหม่...
อย่าได้ลืมบ้านหลังเก่าเลย...เก็บมันไว้เป็นความทรงจำ..
เราจะสังเกตได้ว่า...บรรดาผู้ใหญ่..เมื่อหวนคิดถึงเรื่องเ่ก่า ๆ เขาจะเล่าด้วยน้ำตาคลอ...
จึงอยากให้เพื่อน ๆ ได้เก็บภาพต่าง ๆ ไว้...
ถ่ายภาพบ้านหลังเก่า...ก่อนที่จะรื้อมันออกไป...
ของเก่า ๆ ที่เป็นของพ่อแม่...ก่อนที่จะทื้งมัน ขอให้คิดให้ดีก่อน...
ไม่งั้น...คุณจะคิดถึงมัน...
และจะหามันไม่เจอ..

เก็บเอาไว้นะครับ...รักเ่ก่า..ที่บ้านหลังเก่า...

-->
เนื้อหาและรูปภาพในบล็อกนี้ แม้จะไม่ใช่มืออาชีพ..แต่ถ้าจะนำไปใช้ในการอื่น ขอให้แจ้งเจ้าของบล็อกนิดนึงนะครับ
สงวนลิกขสิทธิ์ตามพ.ร.บ. ครับ...