เล่าเรื่องของ "มาริสา" มาก็หลายตอน..
วันนี้เลยพามาเยี่ยมบ้านของเธอ ผู้ขยันช่วยงานวัดมาตลอด
ตลอดที่ผมทำงานอภิบาลที่นี่
ก็มีเธอนี่แหละที่คอยประสานงานกับพ่อเจ้าวัดที่หยุดพักร้อน...
เพราะลำพังผม ซึ่่งพูดก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร คงจะไปไม่รอดแน่ ๆ
บ้านหลังเล็กของมาริสานั้น เป็นครอบครัวที่ดูอบอุ่นมาก ๆ
สามีเธอชื่อ เทเรสซิเอโน่
ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนชื่อ "โลเรนโซ่" หรือ "โลรี่"
แล้วยังมีแม่ของมาริสาและพี่ชายของเค้าด้วย..
มาริสาทำอาชีพเป็นเกษตรกร...
เลี้ยงวัว เลี้ยงหมู ทำไร่ ไถ่นา เลี้ยงไก่ เลี้ยงกระต่าย...
แต่ที่ว่ามาทั้งหมดนั้น ไม่เหมือนบ้านเราเลยนะ...ของเค้าใหญ่และทำแบบเป็นกิจลักษณะ
ไม่เหมือนชาวนาบ้านเรา....
มาริสาได้เชิญผมมาทานข้าวเย็นที่บ้านสองครั้งด้วยกัน...
ครั้งแรกมาทานพิซซ่า โฮมเมด อร่อยดี พุงกางกลับบ้าน
ครั้งที่สองทานโปรชุตโต้ เมโลเน่ และมีของหวาน ฯลฯ...
ครั้งนี้ก็ได้ถ่ายภาพร่วมกัน
และโลรี่ได้พาผมชมสถานที่ต่าง ๆ...
สนุกดีครับ
เสียดายมีเวลาน้อย..
ผมกะว่าจะช่วยเขาทำงานอยู่เหมือนกัน
แต่เค้าบอกว่าไม่ต้องทำหรอก
มันสกปรกและเหม็นด้วย...
หารู้ไม่ว่า ผมเป็นลูกชาวนานะครับ....
พอเล่าถึงตอนนี้ ผมก็คิดถึงเมื่อครั้งผมเป็นเด็ก ๆ
ที่ิวิ่งเล่นตามท้องนา...
ไล่จับปู วิ่งจับหอย..ตกปลา...วางเหยื่อ..
ตอนเป็นเด็กไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่สนุกกับการเล่นน้ำในท้องนา
ไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องใด ๆ
พอโตมา...ตอนเป็นเณรเล็ก
ตอนนี้แหละครับ
ช่วงปิดเทอมผมและน้อง ๆ ต้องช่วยพ่อแม่ทำไร่ ไถ่นา
พวกเรามีทั้งหมดสี่คน....
จะผลัดกันไถ่นา..คนละหนึ่งบล็อก
เพราะฉะนั้น เราเลยไม่เหนื่อยเท่าไหร่
เพราะทำหนึ่งชั่วโมง ก็ได้พักอีกสามชั่วโมง กว่าจะมาถึงคิวเรา..
ใครว่าเป็นเณรแล้วจะสบาย...
บ้านคนอื่นคงเป็นอย่างนั้น
แต่สำหรับบ้านผม..พ่อและแม่ คอยลูก ๆ ที่ไปเป็นเณร (สามคน) กลับบ้าน
เพื่อให้มาช่วยทำนา...
จะได้แบ่งเบาภาระพ่อบ้าง...
แต่ก็มีความสุขดีเหมือนกัน
ที่เราได้อยู่พร้อมหน้า ได้ทานข้าวและได้ทำงานร่วมกัน
มาถึงเรื่องของมาริสาบ้าง...
บ้านมาริสาหลังไม่ใหญ่มาก
แต่มีแม่คอยจัดระบบระเบียบ ทำความสะอาด
บ้านเลยดูน่าอยู่มาก ๆ
หลังจากทานข้าว เราก็คุยกันสักพัก
ก็ได้คุยเรื่องกล้องด้วย
สมัยที่สามีเธอยังหนุ่ม สามีเธอก็ชอบถ่ายรูปเหมือนกัน
เลยคุยกันถูกคอ....
หลังจากนั้นก็กลับบ้าน...
พอมาถึงบ้านผมก็ไม่รอช้า..ทำตามแผนที่วางไว้
คือตั้งใจว่าจะวาดภาพบ้านของพวกเขา...เพื่อมอบให้เป็นที่ระลึก
เพราะเป็นเพียงสิ่งเล็ก ๆ น้อย ที่ผมพอจะทำได้ เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับน้ำใจดี
พอผมวาดเสร็จ..ก็จัดการมอบให้เธอ..
พอกลับไปถึงบ้านเธอ
เธอเล่าว่า สามีเธอเห็นภาพวาดแล้วดีใจและตื้นตันใจมาก...
และกะว่าจะใส่กรอบแล้วแขวนไว้เพื่อจะได้คิดถึงกัน..
ขอบคุณจริง ๆ แต่อย่าเอาไปแขวนไว้ในห้องน้ำละกัน
เดี๋ยวจะคิม่ายออก.....
ผมว่า..การแสดงออกเล็ก ๆ น้อย ๆ
ซึ่งเป็นการแสดงน้ำใจดีต่อกันนั้น มันมีความหมายมาก ๆ
สำหรับผมไม่ต้องเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร
แต่ขอให้ออกมาจากความจริงใจ
แค่นี้โลกจะมีพื้นที่ความสุขเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย
เหมือนกับความสุขที่ผมได้รับจากพวกเขา
ทำให้ชีวิตบนภูเขาของผมไม่เหงา
และมีสีสันมากขึ้น....
ขอให้ทุกคนแสดงความน้ำใจดีต่อกันมาก ๆ นะครับ..
เป็นต้นเราคริสตชน..
เพียงแค่ฟังคำสั่งสอนของพระเยซูเจ้าเท่านั้นยังไม่พอ
ต้องออกผลด้วย...ต้องนำมาปฎิบัติ
โดยเริ่มจากคนรอบข้าง...และสิ่งละอันพันละน้อย...
แล้วมันจะค่อยเติบโต...เป็นต้นซินาปิส...ที่สามารถให้นกมาทำรังได้....
ผมเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ นะครับ....