Edit title Here

ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่
นักคิดร้อยคำ นักธรรมร้อยใจ
วันนี้มีอะไรใหม่ ๆ เสมอในชีวิต
อย่างน้อยก็มีความรักของพระเจ้า
เป็นความรัก...ที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง...
และอยู่กับเราเสมอ...แม้เราจะไม่ค่อยใส่ใจก็ตาม
Enter
BLOGGER TEMPLATES AND TWITTER BACKGROUNDS

วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เด็กน้อยและสาวฝรั่งเศส บนรถไฟ

ทุกครั้งที่เดินทางโดยรถไฟต้องพะวงกับหลายเรื่อง
เรื่องตั๋วเดินทาง เรื่องเวลา เรื่องข้าวของ เรื่องคนแปลกหน้า ฯลฯ
ที่อิตาลี ได้ขึ้นชื่อว่ามีนักล้วง นักหลอกอยู่มากพอสมควร
จึงต้องระวังตัวไว้ บางครั้งระวังมากเกินไปจนหลับไม่ลง
แม้ว่าจะอยู่บนรถไฟสี่ห้าชั่วโมง...ก็ยังถ่างตาเฝ้าสัมภาระ



เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ผมและเพื่อนอีกคนหนึ่งเดินทางจากกรุงโรมไปเมือง Macerata
ระหว่างทางก็ยังคงกังวลอยู่เหมือนเดิม แม้ว่าจะมีเพื่อนไปด้วยก็ตาม

เมื่อขึ้นรถไฟ เราเลือกนั่งใกล้สาวฝรั่งสองคน มารู้ตอนหลังว่าเป็นชาวฝรั่งเศส
และมีเด็กชายอีกคนหนึ่ง เขามากับยาย แ่ต่เขามักเดินไปเดินมา ไม่อยู่กับที่
เรามีอิสระในการเลือกที่นั่ง เพราะเป็นตั๋วชั้นสอง
ที่นั่งในรถไฟมีสามแถว สองเบาะติดกัน และมีอีกเบาะเป็นที่นั่งเดี่ยว
แต่ที่นั่งนั้นหันหน้าเข้าหากัน
สรุปคือ ในโซนเดียวกัน จะมีที่นั่ง ๖ ที่ ที่หันหน้าเข้าหากัน

เพื่อนผมนั่งกับสาวฝรั่งเศส ในบริเวณที่มีเบาะ ๔ ที่
เขาเลือกนั่งข้าง ๆ สาวฝรั่งเศส คนที่กำลังเขียนบันทึก และวาดภาพในสมุดบันทึก
ส่วนผมชอบนั่งเดี่ยว เบาะข้างหน้าของผมว่าง

เด็กชายคนนั้นเดินวนไปวนมา เหมือนกับว่าเขาไม่ค่อยได้เจอคนเอเชีย
เขาคงเห็นเราเป็น "ของแปลก"
ผมเลยเรียกเด็กชายมานั่งที่ตรงข้ามกับผม ผมเริ่มสัมภาษณ์
เป็นการทดสอบภาษาไปในตัว
เขาบอกว่า เขามากับยาย เขาอายุ ๕ ขวบ ชื่อ Fabrio
ผมถามเขาหลายเรื่อง แต่ก็อดที่จะกลัวเรื่อง "คนแปลกหน้า" ไม่ได้
กลัวว่ายายเขาจะหาว่าผมเป็นคนหลอกเด็ก
แต่พอดูท่าทียายเขาแล้ว ก็ใจชื้นขึ้นมาบ้าง...เพราะว่ายายเขาไม่ว่าอะไร



คนที่แอบมองการสนทนาของผมอีกคนหนึ่งคือ สาวฝรั่งเศส
หนึ่งในสองคนนั้น สนใจว่า ผมคุยอะไรกับเด็กชายคนนั้น
แต่ที่เขาสนใจมากกว่าคือ "การวาดรูปของผม"

เพราะขณะที่ผมและเด็กชายคุยกันเรื่องสัตว์ต่าง ๆ
ผมก็หยิบปากกาและกระดาษชำระขึ้นมาวาดภาพให้เด็กคนนั้นดู
ผมรู้สึกสนุกกับการวาดภาพ และได้ฟังเด็กพูดภาษาอิตาเลียน
ผมวาดตามที่เด็กคนนั้นสั่ง...เป็นการทบทวนคำศัพท์ไปในตัว...
สัตว์ที่ผมวาดให้เขามี ยีราฟ สิงโต ฮิปโป และหมาป่า
แต่ที่เขาชอบที่สุดคือ "หมาป่า"



สถานการณ์บนรถไฟเริ่มคลี่คลาย...
จากการที่ทุกคนรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยกับ "ความแปลกหน้า"
กลับเริ่มมีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ มีการซักถามกัน มากขึ้น...
เด็กชายเดินไปหายาย นำผลงานไปอวด และเริ่มใช้ภาพวาดเป็นตัวละครต่าง ๆ
เล่าเป็นเรื่องราวตามประสาเด็ก ๆ อย่างสนุกสนาน

ส่วนผมคิดอะไรดีดีได้
เลยค้นกระเป๋าหยิบปากกาและกระดาษวาดสีน้ำที่ผมพกติดตัวมาด้วยขึ้นมา
ผมเริ่มวาดภาพวิวสองข้างทางรถไฟ วิวที่นี่สวยน่าดู
มีภูเขา ต้นไม้ ทุ่งหน้า ม้วนฟางข้าวสาลี มีบ้านซ้อน ๆ กันบนไหล่เขา...
ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นอิตาเลียน ได้อย่างดี

เมื่อผมวาดเสร็จแล้ว รถไฟก็ึถึงสถานนีปลายทางที่ผมจะลงพอดี
ก่อนจะลงจากรถ ผมยื่นภาพวาดนั้นให้กับสาวฝรั่งเศสคนที่นั่งข้างเพื่อนผม
คนที่สนใจการสนทนาของผมกับเด็กชายคนนั้น

ผมเห็นสีหน้าของเธอมีความสุขขึ้นมาทันที
ดูเหมือนเธอจะเซอร์ไพรซ์สุด ๆ
ไม่คิดว่าจะได้ภาพวาดจากชายแปลกหน้าบนรถไฟ

ผมก็หวังอย่างเดียวว่าเธอจะชอบมัน
คงเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะเธอยกนิ้วให้ผม และบอกว่ามันสวยมาก ๆ
ผมก็พลอยมีความสุขไปด้วย
ผมแอบลงชื่อในภาพวาดนั้นด้วย เป็นชื่อเดียวกับในเฟสบุคของผม
วันดีคืนดี ผมอาจได้เจอเพื่อนสาวคนนี้ ในเฟสบุคก็ได้

ผมวาดภาพให้เด็กชาย เด็กชายก็มีความสุข
เพราะผมตอบสนองความต้องการของเขาได้ เรียกว่า วาดตามสั่ง

ผมวาดภาพให้หญิงสาวฝรั่งเศส เธอก็มีความสุข
เธออาจไม่ได้คาดหวังอะไร แต่สิ่งที่เธอได้ มันอาจจะเกินความคาดหวังของเธอ
ผมรู้สึกได้ถึงรอยยิ้มที่เธอยื่นให้ผม...

มิตรภาพดีดีเกิดขึ้นได้ ถ้าทุกคนให้โอกาสกันและกัน

สัตว์ทุกตัวที่ผมวาดให้เด็กชายคนนั้น เขาหยิบไปหมดเลย
ยกเว้นตัวเดียวที่เข้าบอกว่า "อันนี้ผมให้คุณนะ"
ผมงงมาก ผมเป็นคนวาดเอง แต่น้องเขากลับยื่นให้ผมซะงั้น
ผมถามเขาว่า "ทำไมละ"
เขาตอบว่า "มันไม่สวย"
มันจะสวยได้อย่างไงละ "ก็มันคือฮิปโป"...


มิตรภาพของผมกับผู้หญิงคนนั้น
จาก "ความแปลกหน้า" กลายเป็น "ความแปลกใจ"

แต่กับเด็กชายคนนั้น
จาก "ความหน้าแปลก" กลายเป็น "หน้าฮิปโป"

ผมอดขำไม่ได้...เด็กมันรู้ว่า อะไรสวย อะไรไม่สวย...
ผมก็หวังว่า เขาคงไม่ได้ให้ผม เพราะหน้าผมเหมือนฮิปโปหรอกนะ...

การเิดินทางครั้งหน้าจะเจอกับอะไรบ้างก็ไม่รู้...
แต่การเดินทางของชีวิต..การทำความรู้จัก ก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน
ไม่เสียหายอะไรกับการจะรู้จักใครสักคน
คนที่เราเคยเห็นหน้า...เคยคุยหน้าต่อหน้า เคยยิ้มให้กัน แบบเห็นตัวเป็น ๆ

ดีกว่ามิตรภาพผ่านอินเตอร์เน็ต...
เพราะบางครั้งมันเป็นเพียงความหลอกลวง
เป็นเพียงลม ๆ แล้ง ๆ
รู้จักคนข้ามขอบฟ้า แต่ก็ไม่ได้เจอกันเลย
สู้รู้จักคนข้าง ๆ ดีกว่า...ได้คุย ได้แบ่งปัน มีความสุขมากกว่ากันเยอะเลย

-->
เนื้อหาและรูปภาพในบล็อกนี้ แม้จะไม่ใช่มืออาชีพ..แต่ถ้าจะนำไปใช้ในการอื่น ขอให้แจ้งเจ้าของบล็อกนิดนึงนะครับ
สงวนลิกขสิทธิ์ตามพ.ร.บ. ครับ...