ช่วงคริสต์มาสของปี 2010 ที่ผ่านมานี้
มีหลายสิ่งหลายอย่างได้ผ่านเข้ามาในชีวิต
มีทั้งสิ่งที่น่ายินดีและไม่ยินดี แต่ทั้งหมดก็ผ่านพ้นไป
ที่สำคัญคือ ตัวผมเองก็ยังมีชีวิตอยู่ ยังมีโอกาสดีดี
ที่จะทำอะไรดี ๆ ได้อีกมากมายในปีใหม่ 2011 นี้
อย่างไรก็ตาม ก็ขอเก็บภาพความทรงจำของช่วงนี้ไว้ในบล็อกนี้
เผื่อว่าเวลาผ่านไปจะได้หวนกลับมาทบทวนชีวิตที่นี่ ตรงนี้อีก
วันศุกร์ ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๐๑๐
วันนี้หิมะตกที่โรม แบบกระปิดกระปอย พอให้ได้เห็นบรรยากาศแห่งความหนาวเย็น
อากาศวันนี้หนาวใช้ได้เลย
นอกจากหิมะตกแล้ว ยังได้เจอเพื่อนด้วย
คือ คุณพ่อวีรศักดิ์ ยงค์ศรีปณิธาน จากเชียงใหม่
เขามาเรียนภาษาอิตาเลียนที่เมือง เวโรน่า
ตอนนี้เริ่มพูดได้คล่องแล้ว เขามาพบพ่ออธิการหอพักพระสงฆ์เยอรมัน
ท่านชื่อ ฮัน ปีเตอร์ ผมเลยได้มีโอกาสเยี่ยมชมหอฯเยอรมัน และได้รู้จักกับอธิการด้วย
พ่อวีรศักดิ์เดินทางไปกลับ อย่างเร่งรีบ เลยไม่ค่อยได้มีเวลาคุยกันนัก
เขามากับพ่อเจ้าวัดที่เวโรน่า พร้อมกับผู้หญิงอีกสองคนเป็นญาติ ๆ กับพ่อเจ้าวัดนั่นเอง
วันเสาร์ที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๐๑๐ ได้ไปคำนับขอพรพระเจ้าจากมาแมร์มีเรียม ที่บ้านศูนย์กลางของคณะที่กรุงโรม
วันนี้พวกเรามีความชื่นชมยินดี ได้ร้องเพลง ได้รับของขวัญ
และที่สำคัญได้รับพระพร อิ่มทั้งกาย อิ่มทั้งใจ
วันอาทิตย์ ที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๐๑๐
วันรวมใจชาวไทย เพื่อขอพรพระในโอกาสคริสต์มาสและปีใหม่
เรามีมิสซาฯ ร่วมกัน มีปาร์ตี้เล็ก ๆ ตามประสาคนไทยในโรม
วันนี้ท่านมองซิญอร์วิษณุ ได้เทศน์เรื่อง “ของขวัญ”
ฟังแล้วก็รู้สึกเพลิดเพลิน กับความเป็นจริงในชีวิตของคนเราและของขวัญ
ท่านสมศักดิ์ ท่านอัครทูตไทยประจำอิตาลีก็มาร่วมด้วย
วันอังคาร ที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๐๑๐
คริสต์มาสที่มหาวิทยาลัยอูร์บาเนียน่า
วันนี้พิเศษนิดนึง เพราะว่าครูคำสอนไทยมีการแสดงรำเซิ้ง
ดนตรีตื่นเต้นเร้าใจซะไม่มี
ผมเลยถูกลากตัวไปเป็นตากล้องให้...
นอกจากนี้ยังมีการแสดงจากประเทศต่าง ๆ ด้วย
ก็เป็นสีสันอย่างหนึ่งของมหาวิทยาลัยฯ
คืนวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๐๑๐
คืนนี้เป็นคืนสำคัญ นั่นคือ คือ คือวันคริสต์มาส
ผมมีความตั้งใจว่า จะไปร่วมมิสซากับพระสันตะปาปา
ในฐานะศาสบริกรศีลมหาสนิท
และนั่นคือ ความสุขเล็ก ๆ ที่ได้ไปร่วมมิสซาอย่างมีความหมาย
และเป็นประโยชน์มากต่อชีวิตจิต
วิญญาณได้รับการหล่อเลี้ยง จากการได้อยู่ใกล้ชิดพระแท่น
ในพระวิหารที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคริสตชน
.............................................................
คืนวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๐๑๐
เป็นอีกคืนได้ออกไปเดินเตร็ดเตร่ ลัดเลาะไปตามซอกซอยของกรุงโรม
เพื่อซึมซับบรรยากาศคริสต์มาสของคนที่นี่
เราได้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ร้อยถ้ำพระกุมารที่ Piazza del Popolo
เสียตังค์ค่าตั๋วคนละ ๕.๕๐ ยูโร
พอเข้าไปแล้ว ก็ผิดหวังเล็ก ๆ เพราะมันไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนที่คิดเอาไว้
นี่แหละเขาว่าหวังมากก็จะเสียใจมาก....
แต่ก็ได้รับการชดเชยจากการเดินถ่ายรูปตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ
ที่ประทับใจคือ ได้จกข้าวเหนียวจ้ำป่นปลา ที่กลาง Piazza del Popolo
วันที่ ๑ มกราคม ๒๐๑๑
วันปีใหม่...เริ่มต้นด้วยการไปร่วมมิสซาวันปีใหม่กับโป๊ป
ในมิสซามีการถ่ายทอดสด
ตากล้องได้แพนมาจับที่หน้าผมประมาณสองวินาที...
แต่ก็มีเพื่อนหลายคนที่เห็น...
สุดยอด...ได้ออกทีวีอิตาเลียน...
ฮ่า ๆ แค่สองวินาที ก็เป็นปรากฎการณ์ใหม่ในชีวิต