วันนี้ได้โอกาสเอาภาพเด็ด ๆ (ผมคิดเองว่าเด็ด) มาฝากทุกท่านครับ
เผอิญว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ได้มีโอกาสไปเดินเที่ยวกับคณะผู้มาอบรมพระคัมภีร์ที่ Nemi
พวกเรามีความตั้งใจว่าอยากจะไปชมวัดนักบุญเชชีลีอา
ผมก็เริ่มกางแผนที่และหนังสือท่องเที่ยวของผม และเริ่มค้นหาว่ามันอยู่ตรงไหนของกรุงโรม
แต่ก็รู้อยู่ว่าอยู่แถว ๆ Trastevere ใกล้ ๆ หอพักนี่เอง แต่ไม่รู้ว่าอยู่ซอยไหน
พอได้ฤกษ์และได้เรื่องแล้ว ก็แบกกล้องกันเลย
วันนี้ในใจผม มีแรงบันดาลใจอยู่สองอย่างที่อยากไปวัดนี้ คือ
ประการแรก เพิ่งได้ศึกษาเรื่องการวัดแสงในการถ่ายภาพเพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ต เลยอยากลองดูบ้าง
ประการที่สอง เพราะว่าเคยไปเที่ยว กาตากอม Callisto
ที่นั่นเป็นที่ฝังศพของท่านนักบุญเชชีลีอา และมีรูปแกะสลักหินอ่อนของท่าน
นอนสิ้นใจอยู่บนหลุมศพ โดยที่ยังทำมือเป็นสัญลักษณ์ค้างอยู่
มือข้างหนึ่ง ทำเป็นสามนิ้ว..ส่วนอีกข้างทำเป็นหนึ่งนิ้ว
มีความหมายว่า ท่านนักบุญจะเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียวที่มีสามพระบุคคลตลอดไปไม่เสื่อมคลาย
ไม่มีสิ่งใดจะพรากความเชื่อนี้ไปได้ แม้แต่ความตายก็ตาม
แต่ว่ารูปแกะสลักในกาตากอมนั้นไม่ใช่ของดั้งเดิม เป็นของจำลองขึ้นมา
ของดั้งเดิมนั้น อยู่ที่วัดแห่งนี้ครับ.....วัดนักบุญเชชีลีอาแห่งทราสเตเวเร่
พอมาถึงวัดก็สมหวังดั่งใจทั้งสองประการเลยครับ
ด้านหน้าของวัดทางเข้าก็ดูธรรมดามาก ข้างในมีสวนเล็ก ๆ และน้ำพุกลางลาน
ด้านหน้าของประตูมีรูปเทวดาน้อยสององค์ ถือป้ายหินที่มีรูปโน้ตดนตรี
เพราะท่านนักบุญเป็นองค์อุปถัมภ์ของนักดนตรี
ก่อนท่านได้ปฎิเสธพระเท็จเทียม ท่านไม่ได้กลัวสิ่งใดเลย
มีแต่พระเจ้าผู้เีดียวเท่านั้น ที่ท่านยำเกรง
ภายในวัดก็ดูไม่กว้างนัก เมื่อเทียบกับหลาย ๆ วัดในกรุงโรม
ภาพนี้ จขบ ชอบเป็นพิเศษครับ...........เพราะในภาพมีความต่างของแสงมาก
แต่ก็สามารถใช้เทคนิคที่ได้อ่านมา เก็บแสงได้ทั้งภายในและภายนอก..โดยไม่มืดเกินไป หรือสว่างเกินไป
ขอบคุณผู้รู้ที่แนะนำนะครับ....ผมท่องได้ขึ้นใจเลยว่า "ดำเดอร์ ขาวเ่วอร์".......แค่นี้ก็ได้ภาพงามแล้ว
สังเกตนิ้วมือนะครับ
มือข้างซ้ายทำชูสามนิ้ว
มือข้างขาวชูนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียว
ประวัติเพิ่มเติมของท่านนักบุญครับ
นักบุญเซซีลีอา พรหมจารียและมรณสักขี (ค.ศ. 207-230)ฉลอง 22 พฤศจิกายน
เซซีลีอา มาจากตระกูลชั้นสูงในกรุงโรม เป็นผู้ที่ศรัทธาต่อพระเยซูเจ้า
บิดามารดาบังคับให้เธอแต่งงานกับบุรุษผู้สูงศักดิ์มีนามว่า " วาเลเรียน "
ในเย็นวันแต่งงาน ขณะที่เธอได้ยินดนตรีบรรเลงอย่างรื่นรมย์
เซซีรีอาได้รื้นฟื้นคำปฎิญาณที่ว่า ตนจะอุทิศถือพรหมจรรย์แด่พระผู้เป็นเจ้า
เธอได้สารภาพความในใจนี้กับวาเลเรียนผู้สามี และชักนำเขาจนสมัครเป็นคริสตชนได้
และเนื่องจากเขาได้ช่วยเหลือเซซีรีอาในงานเมตตาเพื่อคนจน จึงถูกศัตรูฆ่า
เซซีลีอา ปฏิเสธที่กราบไว้พระเท็จเทียม เธอถูกนำไปรนด้วยไอนํ้าเดือด
แต่พระเป็นเจ้าได้ช่วยเหลือชีวิตเธอไว้ จึงถูกทางการให้ทหารนำตัวไปตัดศีรษะ
เพชฌฆาตลงดาบถึงสามครั้ง แต่ศีรษะของเธอไม่ได้หลุดจากบ่า
เธอได้รับบาดแผลฉกรรจ์แต่ยังมีชีวิตอยู่ต่อมาถึง 3 วัน
เธอได้ยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเธอแด่พระสังฆราช เพื่อทำประโยขน์แก่พระศาสนาจักร
และได้รับศีลมหาสนิทก่อนสิ้นใจ
ศพของเซซีลีอาถูกฝังไว้ในอุโมงค์ใต้ดินที่เรียกว่า " กาตากอมป์ "
และได้รับเชิญไปฝังไว้ในพระวิหารนักบุญเซซีรีอา กรุงโรม
เมื่อเปิดหีบศพออกปรากฎว่าร่างกายของเธอมิได้เน่าเปื่อยเลย
ขอจบทริปนี้ไว้ก่อนนะครับ............ทริปหน้าจะตามมาอีก เมื่อพร้อม...(ฮ่าๆๆ ไม่รู้วันไหนนะครับ)